8แจ๊ซคลับ (jazz bar) ในไทยที่ควรค่าแก่การไปเยือนในชีวิตนี้

8แจ๊ซคลับ (jazz bar)ในไทยที่ควรค่าแก่การไปเยือนในชีวิตนี้

 

การเสพดนตรีนั้นเหมือนดั่งการเสพสุรา ที่ผู้เสพไม่ได้สัมผัสเพียงเสียงเพลงหรือรสชาติเท่านั้น หากยังรับประสบการณ์จากรูป รส กลิ่น เสียง โดยรอบตัว นี่คือคลับแจ๊ซทั้ง 8 ที่ในเมืองไทยที่ยอดเยี่ยมทั้งองค์ประกอบด้านดนตรีและบรรยากาศ

Maggie Choo

แค่คำว่าไนท์คลับ ไม่สามารถนิยามทั้งหมดทั้งปวงของ Maggie Choo ได้ คลับแห่งนี้ออกแบบโดย Ashly Sutton อินทีเรียดีไซน์ผู้เนรมิตทุกแห่งหนให้กลายเป็นสถานที่ล้ำเลิศเหนือจินตนาการ การออกแบบลงลึกไปในรายละเอียดทุกสิ่งอย่างอันชวนให้หวนถึงเซี่ยงไฮ้ยุค 1930s ตั้งแต่ก้าวผ่านประตูไม้ ลงบันไดสู่ชั้นใต้ดิน เดินเหยียบกระเบื้องหยกผ่านร้านขายบะหมี่แบบโบราณ จนกระทั่งเปิดม่านเข้าสู่อาณาเขตของคลับที่อยู่ส่วนลึกสุด ซึ่งมีดนตรีสดหลากแนว ตั้งแต่ R&B, Soul, Jazz จนถึง DJ ที่เปิดดนตรี Deep House, Disco และ Hip hop เคล้ากับค็อกเทลสูตรเฉพาะของ Maggie Choo

Credit pict. www.facebook.com/maggiechoos

North Gate Jazz Co-Op

เมื่อเดินผ่านในตอนกลางวัน North Gate Jazz Co-Op เป็นห้องแถวพาณิชย์เก่าแก่ที่ตั้งประจันหน้ากับกำแพงเมืองโบราณ แต่ยามค่ำที่นี่แปลงร่างกลายเป็นเวทีแสดงดนตรีอันคลาคล่ำไปด้วยผู้คนอัดแน่น โดดเด่นออกมาจากตึกแถวอื่นๆ ร้านนี้ดำเนินการมาเจ็ดปีแล้ว โดยนักแซ็กโฟโฟนและนักเพอร์คัชชั่น ผู้มีใจรักในดนตรีแจ๊ซ ทุกค่ำคืนจะพบกับวงดนตรีแจ๊ซเข้มข้นในบรรยากาศเป็นกันเอง ชั้นล่างมีที่นั่งเป็นเก้าอี้ไม้ตัวย่อมซึ่งมักจับจองโดยแขกผู้มาเยือนจนเต็มร้าน ชั้นบนเป็นเบาะสไตล์ไทย เหมาะสำหรับการนั่งฟังเพลงอย่างสบายอารมณ์

Saxophone Pub Phuket

เมืองอันรุ่มรวยด้วยความครื้นเครงอย่างภูเก็ตจะขาดผับแจ๊ซชั้นยอดไปไม่ได้ Saxophone Pub ตำนานผับแจ๊ซแห่งกรุงเทพฯ อันเป็นแหล่งรวมตัวของนักดนตรีแจ๊ซหัวกะทิเล็งเห็นสิ่งนี้ดี จึงหอบเอาความสนุกสนานจากกรุงเทพฯ ไปให้ชาวภูเก็ตได้สัมผัส หลังจากเปิดสาขาแรกในย่านอนุสาวรีย์มาใกล้จะ 40 ปี มิเพียงวงดนตรีแจ๊ซหลากหลายแนวเท่านั้น ผู้มาเยือน Saxophone Pub Phuket จะได้เห็นบรรยากาศร้านแบบดิบๆ ตกแต่งด้วยเครื่องดนตรี รวมถึงโต๊ะไม้ติดเวทีที่เปิดโอกาสให้ผู้ชมเห็นลีลาของนักดนตรีอย่างใกล้ชิดเช่นเดียวกับสาขาในกรุงเทพฯ

Credit pict. www.facebook.com/saxophone

Brown Sugar

Brown Sugar เป็นแจ๊ซบูตีคเก่าแก่ของไทยที่สร้างชื่อเสียงมาเกือบ 40 ปีแล้ว ที่แห่งนี้เป็นแหล่งบ่มเพาะศิลปินแนวหน้าของไทยหลายคน ด้วยจำนวนคนเนืองแน่นที่มารอฟังดนตรีสดทำให้พื้นที่เดิมย่านหลังสวนดูจะคับแคบไป ร้านจึงย้ายมาเปิดสาขาใหม่บนถนนพระสุเมรุ ซึ่งช่วยให้ร้านโดดเด่นทั้งเรื่อง line-up วงดนตรีและกลิ่นอายสไตล์ retro นอกจากผู้มาเยือนจะพบกับวงดนตรีทั้งของไทยและต่างประเทศผลัดเปลี่ยนมาแสดงสดอย่างคึกคักในส่วน in-door แล้ว ยังมีส่วนในของร้านซึ่งเป็นที่นั่งริมคลองบางลำพู ให้คุณซึมซาบมนตร์ขลังยามราตรีของกรุงเก่า

credit pict:www.facebook.com/brownsugarbangkok

The Mellowship

ความเป็นเมืองรุ่มรวยวัฒนธรรมท่ามกลางขุนเขาสลับซับซ้อน เป็นสิ่งที่เชื้อเชิญให้ผู้คนเดินทางมายังเชียงใหม่อย่างไม่ขาดสาย หากจะกล่าวถึงร้านใดที่มีบรรยากาศสบายตามแบบฉบับเชียงใหม่ The Mellowship จัดเป็นหนึ่งในนั้น ร้านนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากย่านนิมมานเหมินท์ซึ่งเป็นแหล่งผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมล้านนากับความเป็นเมืองโมเดิร์น สิ่งพิเศษนอกจากบรรยากาศเรียบหรูและหลากเมนูฟิวชั่นแล้ว ที่นี่ยังเป็นแห่งเดียวในเชียงใหม่ที่มีดนตรีสดครอบคลุมทุกแขนงของดนตรีแจ๊ซ คืนวันศุกร์และเสาร์จะเน้นวงดนตรีแจ๊ซแบบสนุกสนานอันจะทำให้มุมมองต่อดนตรีแจ๊ซของคุณเปลี่ยนไป

Credit pict https://www.facebook.com/themellowshipjazz

Jazz Happens Chiangrai

ร้านแห่งนี้ตั้งขึ้นเพื่อจุดประสงค์ในการเป็นเวทีบ่มเพาะฝีมือของนักศึกษาดนตรี มหาวิทยาลัยศิลปากร เริ่มแรก Jazz Happens ตั้งอยู่ชั้นสองของร้านอาหาร Barbali ริมถนนพระอาทิตย์ ต่อมาขยับขยายลงมาชั้นล่างอย่างเต็มตัวและได้สร้างชื่อเสียงในหมู่คอดนตรี Jazz Happens ไม่หยุดเพียงเท่านั้น ณ วันนี้ ยังเปิดตัวอีกสาขาที่เชียงราย ซึ่งให้บรรยากาศต่างออกไปจากกรุงเทพฯ ร้านใหม่นี้ซ่อนตัวอยู่ในบ้านไม้สองชั้นอันเงียบสงบ เมื่อค่ำคืนมาถึง เหล่านักดนตรีจะมาร่วมที่สนามหน้าบ้าน เพื่อสร้างความมหัศจรรย์แห่งเสียงเพลง

credit pict: www.facebook.com/pages/Jazz-Happens-Chiangrai

Fat Gut’z Saloon (Thonglor)

ช่วงทศวรรษที่ 1920 ในสหรัฐอเมริกามีกฎหมายห้ามจำหน่ายแอลกอฮอล์และต่อต้านดนตรีแจ๊ซ กระนั้นก็ไม่อาจหยุดจิตวิญญาณรักเสรีของผู้คนได้ พวกเขารวมตัวกันโดยปราศจากการแบ่งแยกสีผิวและชนชั้นในสถานที่ปิดอันเปี่ยมไปด้วยความเร้าใจซึ่งเรียกว่า Speakeasy เพื่อร่ำสุราและเสพดนตรีแจ๊ซ ณ วันนี้ ร้าน Fat Gut’z ได้นำบรรยากาศของ Speakeasy มาไว้ใจกลางกรุงเทพฯ ผ่านการตกแต่งในโทนสีดำ เคาน์เตอร์ไม้วินเทจ ไลท์ติ้งสลัวๆ และที่สำคัญคือดนตรีบลูส์ที่ดำเนินเรื่องด้วยซาวด์กีต้าร์ดิบๆ พร้อมจานเลื่องชื่ออย่าง Fish and Chips และ Fat Gut’z Burger

credit pict:https://www.tripadvisor.com/Reviews-Fat_Gut_z

Bamboo Bar

หากเอ่ยถึงสุดยอดโรงแรมหรูในไทย โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ลเป็นชื่อที่อยู่ในใจของหลายคน แน่นอนว่าแจ๊ซคลับของโรงแรมนี้ต้องยอดเยี่ยมไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน Bamboo Bar ตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1953 เพื่อให้ความบันเทิงแก่แขกของโรงแรม ที่แห่งนี้เคยเป็นเวทีแสดงของ Maurice Rocce นักเปียโนฝีมือเจนจัดแห่งยุคร็อกแอนด์โรล ซึ่งดึงดูดศิลปินอย่าง Charlie Parker, Ray Charles, Elizabeth Taylor ฯลฯ ให้มาเยี่ยมเยือน ทุกวันนี้ หากแวะเวียนไปที่ Bamboo Bar ก็ยังคงสัมผัสจิตวิญญาณคลาสสิก ผ่านการตกแต่งธีมป่าดงดิบเหมือนกับตอนที่คลับเริ่มก่อตั้ง นอกจากจะได้ฟังดนตรีแจ๊ซแล้ว ยังได้เติมอารมณ์สุนทรีย์ด้วยค็อกเทลที่สรรค์สร้างโดยมิกโซโลจิกต์ระดับโลก

credit pict:http://www.bangkok.com/magazine/bamboo-bar.htm

0 replies

Leave a Reply

Want to join the discussion?
Feel free to contribute!

Leave a Reply

Your email address will not be published.

one × 1 =