เที่ยวบางแสน แบบคน 9 สาย
แทบไม่มีใครไม่รู้จักบางแสน ชายหาดชื่อดังในจังหวัดชลบุรี แต่เมื่อพูดถึงแหล่งพักผ่อนหย่อนใจในช่วงสุดสัปดาห์ หลายคนก็มองข้ามชายหาดสุดสนุกใกล้กรุงเทพฯแห่งนี้ไป ทั้งที่จริงๆ แล้วบางแสนมีสถานที่ที่เหมาะกับคนทุกไลฟ์สไตล์ สายไหนเหมาะไปไหน ไปดู!
สัมผัสเบื้องหลังประสบการณ์งานบริการระดับโลกกับโรงแรมโอเรียนเต็ล
สัมผัสเบื้องหลังประสบการณ์งานบริการระดับโลก กับ โรงแรมโอเรียนเต็ล
คุณอยากสัมผัสประสบการณ์ระดับโลกที่เป็นความฝันของใครหลายๆคน ไหม ซึ่งครั้งนี้คุณไม่ได้มีโอกาสแค่สัมผัส แต่มีโอกาสเรียนรู้ถึงเบื้องหลังของ World Class experiences เหล่านั้น เพราะโรงแรมแมนดารินโอเรียนเต็ล กรุงเทพหนึ่งใน โรงแรมที่ดีที่สุดในโลก ชวนคุณมาสัมผัสและเรียนรู้ประสบการณ์งานบริการที่เป็นเลิศมาอย่างยาวนาน งานนี้ TicketTail จะมาเล่าให้ฟังว่าทำไม โรงแรมแห่งนี้ถึงเป็นเบอร์หนึ่งในใจของแขกระดับ VIP ทั่วโลก
1 โรงแรมแห่งแรกของประเทศไทย
โรงแรมโอเรียนเต็ลก่อตั้งโดย “ซี ซาลเจ” กะลาสีชาวเดนมาร์ก เมื่อ พ.ศ.2413 ด้วยเหตุนี้จึงทำให้โอเรียนเต็ลมีประสบการณ์ยาวนานในงานด้านบริการที่เป็นเลิศ
2. โรงแรมดีที่สุดของโลก
โรงแรมโอเรียนเต็ลได้รับการยกย่องว่าเป็นโรงแรมที่ดีที่สุดในโลกถึง 10 สมัย ตั้งแต่ ค.ศ.1981 ถึง ค.ศ.1990 โดยสถาบันนักลงทุน (Institutional Investor) จนเป็นความฝันของนักท่องเที่ยวทั่วโลกว่า อยากที่จะสัมผัสโรงแรมแห่งนี้ สักครั้ง
3. โรงแรมโปรดของระดับ VVIP
โดยปรกติแล้วโรงแรมระดับนี้จะมีมาตรการปกปิดรายชื่อแขกที่เข้าพัก เพื่อความเป็นส่วนตัว โดยเฉพาะแขกระดับ VVIP แล้วนั้น ยากจะหลุดออกมาได้ แต่ก็มีแขกระดับ VVIP หลายรายที่เปิดเผยต่อสาธารณะว่าพวกเขาเคยใช้บริการโรงแรมแห่งนี้ ซึ่ง TKT ของยกมาบางส่วน เพราะมีเยอะจริงๆ
ไมเคิล แจ็คสัน อดีตราชาเพลงป็อบที่ทั้งโลกต้องรู้จักเขาคนนี้
ดาราฮอลลีวู้ด จำนวนมากก็เคยสัมผัสโรงแรมชื่อดังแห่งนี้มาแล้ว เช่น เมลล์ กิ๊บสัน, ฌอน คอเนอร์รี่ และ ออเดรย์ เฮพเบิร์น
นักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในโลก และ โด่งดังที่สุดในโลกอย่าง เปเล่ และ เดวิด เบคแฮม ล้วนแต่เคยพักที่นี่มาแล้วทั้งนั้น
นีล อาร์มสตรอง มนุษย์คนแรกที่เหยียบดวงจันทร์ก็เคยมาพักที่โรงแรมแห่งนี้
ระดับผู้นำประเทศอย่าง จอร์จ บุช ซีเนียร์ และ ริชาร์ด นิกสัน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ รวมถึง ฌาคส์ ชีรัค อดีตประธานาธิบดีฝรั่งเศส
ระดับประมุขของประเทศอย่าง สมเด็จราชาและพระราชินีแห่งประเทศสวีเดน ที่ประทับใจโรแรมแห่งนี้ หรือ เจ้าฟ้าชายชาร์ล และ เจ้าหญิงไดอาน่า
4. สัดส่วนพนักงานกับผู้เข้าพักมากที่สุดในโลก
โรงแรมโอเรียนเต็ล มีสัดส่วนของพนักงานกับแขกที่เข้าพักมากที่สุดในอุตสาหกรรมโรงแรมระดับโลก โดยมีพนักงาน 3 คนต่อแขกที่พักในหนึ่งห้อง นั่นทำให้การบริการของโรมแรมแห่งนี้ไม่ใช่แค่ทั่วถึง แต่เหนือความคาดหมายอีกด้วย
5. ทุ่มใจบริการ
ในพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มีพระประมุขและพระบรมสานุวงศ์ เข้าพักในโรงแรมด้วยเหตุนี้โรงแรมต้องมีความพร้อม และใส่ใจในหลายระเอียดอย่างถี่ถ้วน ถึงขนาดที่ต้องรู้ว่าวันจริงจะใช้เวลาเสิร์ฟเท่าไรที่ให้ทุกคนได้รับอาหารในเวลาเดียวกันทั้ง 400 ท่าน จึงต้องมีการไปฝึกซ้อมในสถานที่จริง และรวมไปถึงพระราชพาหนะด้วย โดยมีเจ้าชายพระองค์หนึ่งชื่นชอบรถ BMW ทางโรงแรมจึงจัดซื้อ BMW Series 7 มาเป็นพระราชพาหนะ หรือแม้กระทั้งเครื่องแก้วและชามในห้องก็สั่งทำขึ้นพิเศษ ตามแต่ละพระองค์ทรงโปรดอีกด้วย
6. มาตรฐานระดับโลกในทุกจุด
มีเชฟระดับมิชลินหลายคนจากหลายประเทศที่เคย และยังทำงานอยู่ที่นี่ เช่นเดียวกัน โรงแรมโอเรียนเต็ลก็มี Barista ที่คอยควบคุมคุณภาพของกาแฟให้กับโรงแรม ผู้มาใช้บริการสามารถมั่นใจเลยว่าไม่ว่าส่วนไหนของโรงแรม คุณภาพก็จะเหมือนกันหมด และมี Tea Master ที่คอยควบคุมคุณภาพของชาในโรงแรมอีกด้วย นี่คือเหตุผลว่าทำไม มาตรฐานของโรงแรมแห่งนี้จึงระดับโลกในทุกรายละเอียด
7. บัตเลอร์ระดับโลก
บัตเลอร์ในโรงแรมโอเรียนเต็ลได้รับการอบรมจาก โรงเรียนบัตเลอร์ที่ดีที่สุดในโลก Spencer International School for Butler ประเทศอังกฤษ และในบางครั้งมีผู้เข้าพักยอมที่จะจ่ายเงินถึง 5000บาท/8ชั่วโมง เพื่อขอให้บัตเลอร์ดูแลเขาเป็นพิเศษ
8. แขกไม่ใช่แค่คนสำคัญ แต่เป็นคนพิเศษที่สุด
ในวันที่แขกเช็คเอาท์ บัทเล่อร์จะเซอร์ไพรส์ด้วยดอกไม้ช่อใหญ่แนบการ์ดขอบคุณและเชิญชวนให้กลับมาอีก ยิ่งตอกย้ำภาพความรู้สึกดีๆ และทำให้รู้สึกว่าแขกที่เข้าพักในโรงแรมแห่งนี้เป็นคนที่พิเศษที่สุด
เมื่อลูกค้าที่เคยมาพักที่โอเรียนเต็ล ต้องจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับ โรงแรมจะแสดงความเสียใจ และ คิดถึงไปพร้อมกับญาติ และ คนรักของพวกเขา โดยพนักงานโอเรียนเต็ล มักจะจัดพิธีทำบุญงานศพให้กับแขกเก่าที่เสียชีวิตและมีการส่งรูปถ่ายไปให้ครอบครัวแขกที่ต่างประเทศ เพื่อร่วมแสดงความรู้สึกเสียใจ
ซึ่งนี่ไม่ใช่แค่เรื่องการตลาด แต่เป็นความจริงใจที่มีให้กับคนที่เคยมีประสบการณ์ดีๆร่วมกันในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต และ Human Touch เหล่านี้แหล่ะ ที่ทำให้โรงแรมเก่าแก่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้ ยังคงอยู่ในใจของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกเสมอ
ทั้ง 8 ความสุดยอดที่กล่าวมานี้คือความเอาใจใส่ในรายระเอียดของโรมแรมโอเรียนเต็ลในการบริการ ซึ่งสามารถมั่นใจได้เลยว่าการเรียนรู้ประสบการณ์ทางด้านการบริการจากโรงแรมโอเรียนเต็ลจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอนครับ
เรียบเรียงโดย TKT Team
ขอบคุณข้อมูลจาก Wikipedia และ เว็บไซต์ และ แฟนเพจโรงแรมโอเรียนเต็ล
กระเป๋าสะพายหลัง
เวลาที่คุณจำเป็นต้องออกเดินทางไปไหนไกลๆ ไม่ว่าจะไปเพราะต้องไปทำงาน เดินทางกลับบ้าน หรือไปเที่ยวนั้น คุณอาจจะต้องมีการแพ็กของใส่กระเป๋า ซึ่งถ้าเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ก็อาจจะสะดวกกับการเก็บของหน่อย แต่ถ้าคุณต้องเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องบิน รถทัวร์ รถตู้หรือรถไฟ คุณจำเป็นของพกของดีๆไว้หน่อยใช่มั้ยล่ะค่ะ หลายๆคนอาจจะต้องข้ามว่าเวลาเดินทางนั้นคุณต้องพกอะไรไปบ้างระหว่างทาง แต่ถ้าคุณใส่ใจกับมันซักนิด คุณก็จะได้เดินทางอย่างสะดวกสบายและไร้กังวลเลยล่ะ ลองมาดูกันว่า 5 ไอเท็มเหล่านี้จะช่วยอะไรคุณได้บ้าง
1. ผ้าคลุมไหล่
ถ้าใครเป็นคนขี้หนาวล่ะก็ แนะนำเลยค่ะว่าให้พกผ้าคลุมไหล่ไว้ติดตัวเมื่อต้องเดินทาง เพราะเราคาดเดาไม่ได้เลยว่าแอร์หรืออากาศระหว่างทางนั้นจะเย็นมากน้อยแค่ไหน ถ้าทนไหวได้หรืออยู่ในอุณหภูมิพอดีๆก็ยังดีอยู่ แต่ถ้าเกิดมันหนาวเวอร์ๆขึ้นมาล่ะก็ ลำบากแน่งานนี้ เดี๋ยวจะไม่สบายเอาด้วยนะคะ ดังนั้นเราจึงให้คุณพกแค่ผ้าคลุมไหล่ไปก็พอ เพื่อช่วยปกป้องเราจากความเย็นได้บ้างเล็กน้อย แต่ถ้าอากาศร้อนก็สามารถพกใส่กระเป๋าได้ง่ายๆ ไม่เทอะทะเหมือนพกผ้าห่มค่ะ
2. กระเป๋าสะพายหลัง
หากต้องเดินทางจริง ของบางส่วนที่ต้องเก็บใส่กระเป๋าเสื้อผ้าอาจจะหยิบออกมาได้ลำบาก ดังนั้นคุณควรจะมีกระเป๋าที่สามารถเปิดเข้า-ออก บ่อยๆได้และสามารถใส่ของใช้จำเป็นระหว่างเดินทางได้ด้วยค่ะ แต่ถ้าเป็นกระเป๋าสะพายข้างก็อาจจะเล็กเกินไป หรือถ้าเป็นกระเป๋าที่ใช้สะพายสวยๆทุกวันก็อาจจะดูเป็นทางการไปหน่อย แถมยังไม่ช่วยให้กระฉับกระเฉง แนะนำเป็น กระเป๋าสะพายหลังสไตล์แมนๆค่ะ เวิร์คสุด เพราะสามารถจุของได้เยอะ ดีไซน์ก็เท่ห์เข้ากันได้กับทุกชุด แถมพกพาสะดวกไม่ต้องคอยกังวล ซึ่งถ้าเป็นกระเป๋าสะพายหลังของผู้หญิงอาจจะไม่ค่อยทนทานและจุของได้น้อยด้วยนะ
3. แว่นตากันแดด
ระหว่างเดินทางแว่นตากันแดดนั้นสารพัดประโยชน์จริงๆนะ เพราะถ้าคุณเจอแสงแดดระหว่างอยู่นอกรถก็สามารถป้องกันได้ แล้วยิ่งถ้าคุณนั่งอยู่ในรถทุกประเภท คุณอาจจะย้ายตัวเองออกจากมุมแดดไม่ได้ แล้วถ้ามันไม่มีผ้าม่านให้บังแดดล่ะก็ ตัวเกรียมไม่พอ สายตาอาจจะโดนรังสียูวีทำร้ายได้นะคะ ดังนั้นพกแว่นตากันแดดไว้อุ่นใจแน่นอน แล้วถ้าแดดไม่มี อยากจะนอนหลับยาวๆแว่นตากันแดดก็ช่วยให้เปลือกตาของคุณปิดสนิทได้แบบไม่ต้องกังวลเลยล่ะ
4. หูฟังพร้อมอุปกรณ์สำหรับเล่นเพลง
อุปกรณ์ที่ว่าอาจจะเป็นเครื่องเล่น MP3 หรือโทรศัพท์ของคุณก็ได้นะคะ ช่วยให้แก้เบื่อได้สบายๆเลยล่ะ ถ้าความจุใครเยอะจะเอาหนังไปนอนดูระหว่างทางก็ยังได้เลยนะ
5. น้ำดื่ม
ระหว่างเดินทางการเติมน้ำให้ร่างกายจะช่วยลดความเครียดและอาการปวดหัวได้นะคะ แต่ต้องระวัง ค่อยๆจิบเพราะถ้าอยากเข้าห้องน้ำบ่อยๆแล้วทำไม่ได้ล่ะก็ อาจจะลำบากแทนค่ะ
ขอบคุณภาพสวยๆจาก Pinterest
Article by TKT Team
Tickettail.com Your Lifestyle Calendar
9 วิธีดูหนุ่มโสดในคอนเสิร์ต
ของอย่างนี้มันมีวิธีดูนะจะบอกให้
4เทศกาลฤดูใบไม้ร่วงที่ญี่ปุ่น
4เทศกาลฤดูใบไม้ร่วงที่ญี่ปุ่น
ถ้าให้พูดถึงฤดูใบไม่ร่วง ที่โรแมนติกที่สุดอีกที่หนึ่งคงไม่พ้นญี่ปุ่นที่เรารู้จักกันอย่างดี ความงามของธรรมชาติและบ้านเมืองทำให้เราแพ็คกระเป๋าบินไปญี่ปุ่นได้ทุกช่วงฤดู ทั้งฤดูร้อน ฤดูหนาว หรือ ฤดูใบไม้ร่วง วันนี้ TKT ขอแนะนำเทศกาลในฤดูใบไม้ร่วงที่รับรองความยิ่งใหญ่ เต็มอิ่มไปกับกลิ่นอายของวัฒนธรรมดั้งเดิม และเข้าใกล้ถึงวิถีชีวิตแบบญี่ปุ่นจริงๆ ผ่านเทศกาลสุดประทับใจ
Jidai Matsuri เทศกาลย้อนยุคของศาลเจ้าเฮอัน
เทศกาลย้อนยุคของศาลเจ้าเฮอันในเกียวโต คงไม่ต้องพูดถึงความยิ่งใหญ่เพราะ นี่นับเป็นหนึ่งใน 3 เทศกาลที่ยิ่งใหญ่ของเกียวโต โดยมีผู้เข้าร่วมมากว่า 2,000 คน และใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงในการชมขบวนทั้งหมด นอกจากนี้ผู้ร่วมขบวนแห่จะแต่งกายตามยุคสมัยใน ประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น งานนี้ได้กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม และเดินตามรอยประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นได้ไม่มีเบื่อ
cr photo : www.viajesajapon.net
Jidai Matsuri แปลตรงๆ ตัวคือ “เทศกาลแห่งยุคสมัย” เป็นเทศกาลจัดขึ้นในทุกวันที่ 22 ตุลาคมของทุกปี ตามวันครบรอบการก่อตั้งเกียวโตนั่นเองในขบวนแห่จะมี Mikoshi (ศาลเจ้าเล็กๆ) ซึ่งที่เฮอันนี้มีความพิเศษตรงที่ว่า Mikoshi ที่แห่กันนั้นเป็นที่สถิตย์ดวงพระวิญญาณของจักรพรรดิพระองค์แรกของกรุงเกียวโต คือจักรพรรดิคัมมุ และดวงพระวิญญาณของจักรพรรดิโคเมอิ จักรพรรดิ์องค์สุดท้ายของกรุงเกียวโต
cr photo : www.kyoto-ryokan-sakura.com
ตลอดเส้นทางของขบวนแห่ ส่วนที่จะมีผู้เข้าชมเยอะที่สุดมักจะเป็นที่พระราชวังอิมพีเรียล และบริเวณใกล้เคียงกับศาลเจ้าเฮอัน ถ้าสนใจที่จะเข้าชมควรไปถึงก่อนเวลา เพราะนักท่องเที่ยวในช่วงใกล้หน้าหนาวแบบนี้จะค่อนข้างเยอะพอสมควร และสามารถเข้าร่วมขบวนแห่ได้ตลอดเส้นทาง เก็บภาพบรรยากาศได้เต็มอิ่มแน่นอน
Karats Kunchi Matsuri เทศกาลฤดูใบไม่ร่วงศาลเจ้าคะระสึ
เทศกาลฤดูใบไม้ร่วงศาลเจ้าคะระสึ ที่โดดเด่นคงจะไม่พ้นขบวนแห่รูปปลาสีแดงใหญ่ที่ อลังการงานสร้าง ซึ่งในแต่ละปีมี ผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 500,000 คน จัดว่าเป็นงานเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ ของญี่ปุ่นที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก และเป็นเทศกาลที่ได้ถูกกำหนดให้เป็นส่วนหนึ่งของมรดกทางวัฒนธรรมอีกด้วย มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน โดยเทศกาลจะจัดขึ้นทุกๆปีในวันที่ 2-4 พฤศจิกายน ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ศาลเจ้า Karatsu
เทศกาล Karatsu kunchi Matsuri จะเริ่มต้นด้วยพิธีขอบคุณเทพเจ้าสำหรับการเก็บเกี่ยวที่อุดมสมบูรณ์ตลอดทั้งปี ความสำเร็จของการทำธุรกิจต่างๆ ส่วนไฮไลท์ของงานนี้เลยจะอยู่ในวันที่สองของเทศกาล คือมีขบวนพาเหรดโคมลอยขนาดใหญ่ถึง 14 โคมลอยด้วยกัน ซึ่งจะมีโคมลอยหลายแบบ นับว่าเป็นสีสันของพาเหรดเลยว่าได้ เช่น ปลาทะเล สิงโต หมวกนักรบซามูไร และอีกมากมายให้ผู้คนที่เข้าร่วมชมพาเหรดได้หยิบกล้องออกมาถ่ายภาพความสวยงามนี้
cr photo : www.goldenjipangu.com
Hakone Daimyo Gyoretsu เทศกาลขบวนแห่เจ้าเมือง
เทศกาล Hakone Daimyo Gyoretsu จัดขึ้นทุกปีในวันที่ 3 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันวัฒนธรรม (วันหยุดแห่งชาติ) งานนี้มีผู้ร่วมขบวนกว่า 200 คน ไฮไลท์เลยคือการแต่งตัวย้อนยุคไปในสมัยเอโดะ ทั้งซามูไร และเจ้าหญิง สวยงามทั้งขบวนแห่และในแง่ของประวัติศาสตร์
cr photo : http://event-carnival.com
โดยเทศกาลนี้จะจัดขึ้นที่เมือง Hakone ประเทศญี่ปุ่น โดยเทศกาลจะเริ่มตอน 10 โมงเช้า และในขบวนแห่จะแบกเกี๊ยวที่มีความเชื่อว่าเป็นพระเจ้าสิงสถิตย์อยู่ และมีเสียงตะโกน “ลงมา! ลงมา! พระเจ้ามาแล้ว!” โดยผู้นำขบวน โดยออกจากวัด Sounji และเดินขบวนมาเรื่อยๆ จนถึงจุดหมายปลายทางที่โรงแรม Yumoto Fujiya เทศกาลจะเริ่มคึกคักตอนช่วงบ่ายๆ โดยการแสดงดนตรีและเต้นรำของเกอิชา ที่สร้างความสุขและความบรรเทิงของเทศกาล
SHICHI GO SAN เทศกาลฉลองอายุ 3,5 และ 7 ขวบ
ป็นเทศกาลที่มีความสำคัญต่อเด็กๆในญี่ปุ่นมาก ซึ่งจัดเป็นประจำทุกปีในวันที่ 15 พฤศจิกายน ใครที่ไปเที่ยวในช่วงนี้ จะพบเห็นเด็กๆใส่ชุดกิโมโน หรือชุดที่สวยงามที่สุด เป็นการเฉลิมฉลองให้กับเด็กชายวัย 3 และ 5 ขวบ และเด็กหญิงวัย 3 และ 7 ขวบ โดยผู้ปกครองจะพาไปไหว้พระที่ศาลเจ้า เพื่อขอให้เด็กๆมีการเจริญเติบโตที่แข็งแรงในวันข้างหน้า
เทศกาล SHICHI GO SAN เด็กชายจะสวมฮะโอะริ ซึ่งเป็นเสื้อคลุมสวมทับกิโมโน และ กระโปรงกางเกงแบบญี่ปุ่นยาวคลุมข้อเท้า เด็กหญิงอายุ 3 ขวบจะสวมสายคาดง่าย ๆ ที่ทำติดกับกิโมโนของเด็ก และเมื่ออายุ 7 ขวบจะสวมโอะบิ สายคาดเอวขนาดใหญ่ สำหรับชุดกิโมโนแทน หลังจากเสร็จพิธีแล้วผู้ปกครองจะซื้อลูกอมพันปีและเครื่องรางให้เป็นของขวัญ ลูกอมพันปีมีความเชื่อว่า อายุยืนยาว และหลังจากนั้นจะเป็นการเฉลิมฉลองกันในครอบครัว
cr photo : http://asian-images.photoshelter.com
จัดไป! 5 ที่เที่ยวชะอำ – หัวหินใหม่แกะกล่อง เสาร์อาทิตย์ก็เที่ยวได้ Huahin’s newest
จัดไป! 5 ที่เที่ยวชะอำ – หัวหินใหม่แกะกล่อง เสาร์อาทิตย์ก็เที่ยวได้
ในช่วงนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวในชะอำ – หัวหิน ใหม่เอี่ยมที่เพิ่งเปิดตัวกันไปหลายแห่ง แต่ละที่สวยเก๋ มีคอนเซปต์เจ๋งๆ น่าไปถ่ายรูปเช็คอิน ลงโซเชียลแบบสุดๆ ตั้งแต่คอมมูนิตี้มอลล์ สวนสัตว์ สวนสนุก ยกขบวนกันมาแบบครบรส! วันนี้ TicketTail ร่วมกับ Traveloka รวบรวมมานำเสนอให้ได้แวะไปเยี่ยมชมกัน ต้องบอกว่าแต่ละแห่งเด็ดๆทั้งนั้น ว่าแล้วก็อย่ารอช้า รีบไปดูกันเลย
1. Camel Republic: คาเมล รีพลับบลิค สวนสัตว์และสวนสนุก ชะอำ
ขอบคุณภาพจาก camel-republic.com
Camel Republic สวนสัตว์และสวนสนุกเปิดใหม่ของชะอำ ที่ตกแต่งในสไตล์โมร็อคโค สวยเก๋เหมาะแก่การถ่ายรูปแบบสุดๆ ด้านในยังเต็มไปด้วยเครื่องเล่นสุดมันส์ที่ยกทัพมาให้ความสนุกกัน เช่น Sky Fly เครื่องเล่นไฮไลต์ที่จะทำให้คุณลอยตัวในอากาศ เหมือนการกระโดดร่ม ซึ่งเครื่องเล่นนี้ที่มีอยู่ที่นี่ที่เดียวในไทยด้วยล่ะ นอกจากนี้ยังมี Drop Twist เครื่องเล่นดิ่งพสุธาสุดเสียว หรือจะเป็น Gyro Xtreme วงล้อตีลังกาสุดมันส์เหมือนอยู่ในทอร์นาโด และอื่นๆอีกมากมายที่ให้คุณได้มาประลองความกล้ากัน รวมทั้งมีโซน Animal Park สวนสัตว์ที่ได้รวบรวมสัตว์หายากมาให้ชมกันอย่างใกล้ชิด เช่น อัลปาก้า อูฐ นกฟลามิงโก้ พาตาโกเนียนมารา และอื่นๆอีกมากมายที่เค้าเปิดให้เราได้ป้อนอาหารด้วย นอกจากนี้ยังมีโซนของฝาก ของที่ระลึก และร้านอาหารพร้อมเครื่องดื่ม ไว้คอยให้บริการแบบจัดเต็ม
วันและเวลาเปิดให้บริการ: วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 10.00 – 18.00 น. / วันเสาร์ – วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 9.00 – 18.30 น.
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 120 บาท / เด็กส่วนสูงไม่เกิน 100 ซม. เข้าฟรี
การเดินทาง: Camel Republic ตั้งอยู่ที่อำเภอชะอำ บนถนนเพชรเกษม ใกล้กับสวนน้ำซานโตรินี
2. พิพิธภัณฑ์ภาพ 4 มิติ For Art’s Sake
ขอบคุณภาพจาก forartssakehuahin.com
For Art’s Sake พิพิธภัณฑ์ภาพ 4 มิติแห่งใหม่ของหัวหิน มีภาพเสมือนจริงและพร็อพมากมายให้ได้ถ่ายรูปเล่นกันอย่างสนุกสนาน ยิ่งถ้าไปกับแกงค์เพื่อนคงจะเฮฮาน่าดู ที่นี่มีภาพ 4 มิติจัดแสดงทั้งหมด 5 โซน ได้แก่ โซนภาพเหนือจินตนาการ โซนภาพสยองขวัญ โซนห้องกลับหัว โซนย้อนวัยเด็กและโซนลวงตา ที่ต้องบอกว่าเหมือนจริงมากๆ
วันและเวลาเปิดให้บริการ : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00 – 21.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 180 บาท / เด็ก 120 บาท
ที่ตั้ง : 22/141 ถ.เพชรเกษม อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
3.คอมมูนิตี้มอลล์ Seenspace HuaHin
ขอบคุณภาพจาก Facebook : Seenspacehuahin
Seenspace HuaHin คอมมูนิตี้มอลล์สุดคูลแห่งใหม่ของหัวหิน สถานที่สุดชิลติดทะเลหัวหิน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Eat, Lay, Play, Relax” ที่ Seenspace เขาได้รวบรวมร้านค้าและร้านอาหารชื่อดังไว้มากมายเช่น HOBS, The Barrel, White Shuffle,Paul Smith, Marc by Marc Jacob, DKNY, Diesel และอื่นๆอีกมากมาย ใครมาเที่ยวในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ (วันเสาร์ – จันทร์) ก็อย่าลืมมาเดินเล่นตลาดนัด Seen Space Open Fest ที่รวมอาหารและเครื่องดื่มเด็ดๆมาให้เลือกเพียบ เลือกซื้ออาหารแล้ว ก็มานั่งชิลเคล้าเสียงดนตรี รับลมทะเล บอกเลยว่าดีต่อใจมากๆ
วันและเวลาเปิดให้บริการ: วันจันทร์ – วันพฤหัสบดี เวลา 11.00 – 22.00 น. / วันศุกร์ – วันอาทิตย์ เวลา 10.00 – 22.00 น.
ค่าเข้าชม: เข้าฟรี
ที่ตั้ง: ซอยหัวหิน 35 อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
4. แหล่งช้อปปิ้ง Bluport HuaHin
ขอบคุณภาพจาก Facebook : BlúportHuahin
Bluport HuaHin แหล่งช้อปปิ้งเปิดใหม่ที่มีสถาปัตยกรรมผสมผสานแรงบันดาลใจจากเมืองรีสอร์ทชายทะเลที่มีชื่อเสียงระดับโลกมาไว้ที่เมืองไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์มนต์เสน่ห์แห่งการเดินทางสู่ความหรรษา สามารถช็อปปิ้งอย่างเพลิดเพลินกับร้านค้ามากมายหลากหลาย บนพื้นที่ 50,000 ตร.ม. ภายในถูกจัดไว้หลายโซน ประกอบด้วย Beach Story ที่รวบรวมสินค้าเกี่ยวกับทะเลและชายหาดเอาไว้ ทั้งเสื้อผ้าและ Accessories มากมาย, Dining Port ที่มีร้านอาหารและคาเฟ่ชื่อดังให้ได้เลือกทานกันมากกว่า 50 ร้าน, Gold and Jewelry Port แหล่งรวมร้านเครื่องประดับที่ได้มาตรฐาน, Beauty Hall เอาใจสาวๆ ที่รักความสวยความงาม ขนเครื่องสำอางแบรนด์ดังมาให้ได้เลือกช็อปปิ้งกัน นอกจากนี้ยังมี โซน Be trend, Financial Port, Port walk, Game Port และอื่น ๆ อีกมากมาย
วันและเวลาเปิดให้บริการ : วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 10.30 – 00.00 น. / วันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 10.00 – 00.00 น
ที่ตั้ง : 8/89 ซอยหมู่บ้านหนองแก ต.หนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
5. บ้านศิลปินหัวหิน, หัวหิน (Artist Village Hua Hin)
ขอบคุณข้อมูล และ ภาพจาก www.tripgether.com
บ้านศิลปินหัวหิน เป็นศูนย์รวมศิลปกรรมและพิพิธภัณฑ์ชื่อดังของหัวหิน อยู่ภายใต้การดูแลของอาจารย์กวี เกษางาม เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวหัวหินที่ไม่ควรพลาด เพราะเป็นแหล่งรวบรวมงานศิลปะที่ทรงคุณค่ามาไว้ให้ชมภายในที่นี่ที่เดียว นอกจากนี้บ้านศิลปินหัวหินยังแบ่งออกเป็นหลายโซน มีทั้งโซนเวิร์คช็อป ซึ่งจะมีกิจกรรมเวิร์คช็อปมาให้ลองทำ เช่น กิจกรรม Eco Print เพ้นท์ลายใบไม้ลงบนผ้า มีโซนพิพิธภัณฑ์ที่สามารถเข้าไปเดินเยี่ยมชมงานต่างๆ ได้ แถมยังมีสตูดิโอที่มีศิลปินมานั่งวาดรูปให้ชมกันแบบสดๆ นอกจากนี้ยังมีตลาดแฮนด์เมด ขายของทำมือ และยังมีคาเฟ่อยู่ภายในอีกด้วย บ้านศิลปินหัวหินจึงเป็นที่เที่ยวที่สามารถมาพักผ่อนได้แบบยาวๆ
วันและเวลาเปิดให้บริการ : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00 – 17.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)
ค่าเข้าชม : ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 40 บาท/คน เด็ก 20 บาท/คน
ที่ตั้ง : ซ.หัวหิน 82 ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
ส่วนขามิวสิคเฟสติวัล อย่าพลาดคอนเสิร์ตสุดฟินริมหาด Beach Boys and Girls และ นั่งเล 2 สามารถจองที่พักและรถรับส่งได้ที่ทิคเก็ตเทลเช่นเคย ที่ลิงค์ด้านล่างนี้เลย
เห็นแล้วต้องโดด! 5 พิกัดสระว่ายน้ำโรงแรมพัทยาเด็ดๆ ที่แก็งค์คุณห้ามพลาด
เห็นแล้วต้องโดด! 5 พิกัดสระว่ายน้ำโรงแรมพัทยาเด็ดๆ ที่แก็งค์คุณห้ามพลาด
พัทยา เมืองชายทะเลใกล้กรุงเทพฯ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยว รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ให้ทำมากมาย รวมถึงที่พักจำนวนมากที่โดดเด่นในด้านต่างๆ เช่น ดีไซน์ ทำเล ห้องพัก หรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ แต่สิ่งหนึ่งเลยที่ขาดไม่ได้คือสระน้ำสวยๆ ที่เห็นแล้วผ่อนคลาย และให้คุณกับเพื่อนๆได้เล่นกันอย่างสนุกสนาน วันนี้ Traveloka เว็บไซต์จองที่พักและตั๋วเครื่องบินชั้นนำ จึงขอเอาใจคนรักสระว่ายน้ำ ด้วยการคัดโรงแรมในพัทยาที่มีจุดเด่นเรื่องสระว่ายน้ำมาฝากกัน มีทั้งประเภทยิ่งใหญ่อลังการ ประเภทมีสไลเดอร์ และประเภทเน้นความชิลแบบฟินๆ
ก่อนออกเดินทางก็อย่าลืมจองที่พักในพัทยาล่วงหน้าผ่านทาง Traveloka ที่รวมที่พักจำนวนมากไว้ในที่เดียว แถมยังมีโปรโมชั่นอยู่ตลอด จองง่ายจ่ายง่ายได้หลายช่องทาง ไม่ต้องมีบัตรเครดิตยังจองได้เลย
ถ้าพร้อมแล้วก็เตรียมแพยาง กล้องถ่ายใต้น้ำ หรือพร็อพต่างๆ ให้ครบ แล้วไปดูที่พักดีสระน้ำเด็ดกันเลย
- เมอร์เคียว พัทยา โอเชียน รีสอร์ท (Mercure Pattaya Ocean Resort)
เมอร์เคียว พัทยา โอเชียน รีสอร์ท (Mercure Pattaya Ocean Resort) เป็นโรงแรมดีที่มีสระว่ายน้ำเด็ดแบบห้ามพลาด จากขนาดแล้ว เราสามารถเรียกสระว่ายน้ำที่นี่ว่าสวนน้ำย่อมๆ ได้เลยทีเดียว เพราะมีสไลเดอร์ และยังห้อมล้อมด้วยน้ำตกและต้นไม้สุดร่มรื่น รับรองว่าถูกใจคนชอบเล่นน้ำทุกเพศทุกวัยอย่างแน่นอน เมอร์เคียวตั้งอยู่บนถนนเลียบชายหาดพัทยาในทำเลที่ล้อมรอบไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังต่าง ๆ เช่น ทิฟฟานี่โชว์ (Tiffany Show) อาร์ตอินพาราไดซ์ (Art in Paradise) และ ห้างเซนทรัลเฟสติวัล (Central Festival Shopping Center) เป็นต้น
ส่วนห้องพักของที่นี่ก็มีมากถึง 210 ห้องด้วยกัน โดยแบ่งออกเป็น 3 แบบใหญ่ ๆ คือ ห้องพักแบบซูพีเรีย (Superior Room) แบบดีลักซ์ (Deluxe Room) และแบบสวีท (Suite Room) สำหรับใครที่อยากพักห้องแบบสองเตียง (Twin Bed) ก็ต้องเลือกห้องแบบซูพีเรียและห้องแบบดีลักซ์ค่ะ เพราะห้องแบบสวีทจะมีแต่เตียงใหญ่ (King Bed) เท่านั้นการตกแต่งสถานที่และห้องพักของเมอร์เคียว เน้นโทนสีขาวตัดกับสีฟ้าและเหลือง สดใสสะอาดตา ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย และเย็นสบาย
พื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกของที่นี่ถือว่าโดดเด่นมากเลยทีเดียวค่ะ สระว่ายน้ำที่นี่มีถึง 2 สระด้วยกัน คือสระแบบธรรมดา และสระที่มีสไลเดอร์พร้อมเครื่องเล่นสำหรับเด็ก เป็นเสมือนสวนน้ำย่อม ๆ เลยก็ว่าได้ นอกจากสระว่ายน้ำแล้ว ยังมีหน้าผาจำลองไว้สำหรับผู้เข้าพักที่ชื่นชอบกิจกรรมท้าทาย ห้อง common room สำหรับเด็ก ห้องอาหาร บาร์และฟิตเนสครบครัน โดยรูมเซอร์วิสที่นี่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงเลยล่ะ เมอร์เคียวเป็นรีสอร์ทที่เหมาะกับการมาพักผ่อนทั้งแบบส่วนตัวและแบบครอบครัว โดยเฉพาะครอบครัวไหนที่มีเด็กๆ รับรองว่าจะต้องถูกใจอย่างแน่นอน โรงแรมดี สระว่ายน้ำเด็ดขนาดนี้ เข้าไปกดจองกับ Traveloka ได้เลยที่ https://www.traveloka.com/th-th/hotel/thailand/mercure-pattaya-ocean-resort-1000000463392
ขอบคุณภาพจาก mercurepattaya.com
- สยาม แอท สยาม ดีไซน์ โฮเทล พัทยา (Siam @ Siam Design Hotel Pattaya)
สระว่ายน้ำของ สยาม แอท สยาม ดีไซน์ โฮเทล พัทยา (Siam @ Siam Design Hotel Pattaya) แบ่งออกเป็น 2 สระด้วยกัน คือสระว่ายน้ำชั้น 23 และสระว่ายน้ำชั้น 24 ให้คุณดื่มด่ำบรรยากาศสวยงามของเมืองพัทยากันได้แบบเต็มอิ่ม รวมถึงยังมีดีไซน์เก๋แบบโมเดิร์น เน้นการใช้สีสันสดใส และรวมความเป็นไทยออกมาได้อย่างลงตัว ที่ห้ามพลาดเลยคือการแชะภาพกับรูปปั้นหนุมานริมสระน้ำ
ในส่วนของห้องพัก สยาม แอท สยาม มีห้องพักถึง 251 ห้อง โดยแบ่งออกเป็นห้องพักแบบ Leisure Class 191 ห้อง Grand Leisure Class ห้องพักพร้อมระเบียงส่วนตัว 5 ห้อง Youth Class ห้องพักแบบ 3 เตียง 6 ห้อง และ Biz Class ห้องพักพร้อมอ่างอาบน้ำ 49 ห้อง โดยห้องพักทั้งหมดจะเริ่มจากชั้นที่ 7 ไปจนถึงชั้น 22 สไตล์การตกแต่งห้องพักและสถานที่ของที่นี่เน้นโทนสีสดใส โมเดิร์น มีผลงานศิลปะแบบ abstract แปลกตาอยู่ในทุกที่ ใครที่ชอบถ่ายรูปต้องเพลิดเพลินอย่างแน่นอนเลยล่ะค่ะ
นอกจากสระว่ายน้ำแล้วที่นี่ยังมีห้องอาหารและบาร์ชั้นดาดฟ้า (Rooftop bar and restaurant) ที่เสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มอร่อย ๆ เข้ากับบรรยากาศโรแมนติกอีกด้วย โรงแรมดี สระว่ายน้ำเด็ด พร้อม rooftop bar ใครที่ติดใจความอาร์ตของที่นี่ลองเช็คราคาห้องก่อนได้ที่ https://www.traveloka.com/th-th/hotel/thailand/siamsiam-design-hotel-pattaya-1000000442277 แล้วเตรียมตัวไปว่ายน้ำดื่มด่ำบรรยากาศที่สวยๆกันได้เลย
ขอบคุณภาพจาก siamatpattaya.com
- รอยัล คลิฟ บีช โฮเต็ล (Royal Cliff Beach Hotel)
สระว่ายน้ำของที่นี่มาในคอนเซปท์อินฟินิตี้ คือเป็นสระว่ายน้ำที่ให้ความรู้สึกเหมือนจรดติดกับทะเลเลยล่ะค่ะ นับว่าเป็นจุดชมวิวที่ขึ้นชื่อ โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกเลยทีเดียว นอกจากสระว่ายน้ำที่สวยงามแล้ว สิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ของ รอยัล คลิฟ บีช โฮเต็ลก็มีชื่อเสียงไม่แพ้กัน ที่นี่มีห้องคาราโอเกะ ห้อง Playroom สำหรับเด็ก ฟิตเนส สนามเทนนิส ห้องอาหารนานาชาติให้คุณเลือกสรร เช่น ห้องอาหารไทย ห้องอาหารอินเดีย และห้องอาหารจีน สำหรับใครที่สนใจเรียนทำอาหารก็สามารถเข้าร่วมชั้นเรียนการทำอาหารกับทางโรงแรมได้ หรือใครจะอยากนวดผ่อนคลายก็มีสปาชั้นนำเอาไว้บริการอีกด้วย
รอยัล คลิฟ บีช โฮเต็ล การันตีเรื่องความหรูหราและบรรยากาศสวยงามของสระว่ายน้ำได้เลย เนื่องจากตัวรีสอร์ทตั้งอยู่บนเขาพระตำหนัก ล้อมรอบไปด้วยวิวภูเขาและทะเลให้บรรยากาศธรรมชาติและโรแมนติกสุด ๆ นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้กับวัดเขาพระบาท สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของพัทยาอีกด้วย
รอยัล คลิฟ บีช โฮเต็ล มีห้องพักทั้งหมด 474 ห้อง แบ่งออกเป็นห้องพักแบบมินิสวีท (Mini Suite) 151 ห้อง แบบมินิสวีทพลัส ( Mini Suit Plus ) 306 ห้อง แบบธีมสวีท 1 ห้องนอน (Theme Suites 1 bedroom) 5 ห้อง และแบบธีมสวีท 2 ห้องนอน (Theme Suites 2 bedroom) 12 ห้อง โดยทุกห้องสวยงาม มีขนาดกว้างขวาง และสามารถเลือกวิวภูเขาหรือทะเลได้ตามความชอบ
ขอบคุณภาพจาก royalcliff.com
- แอตแลนติส คอนโด แอนด์ วอเตอร์พาร์ค พัทยา บาย เดอะ ซี (Atlantis Condo and Water Park Pattaya by the Sea)
เป็นอีกหนึ่งโรงแรมดีที่ Traveloka ต้องขอบอกว่าสระว่ายน้ำเด็ดมากเลยจริง ๆ ล่ะค่ะ จะเรียกว่าเป็นสวนน้ำเลยก็ว่าได้ Atlantis Condo and Water Park Pattaya by the Sea ตั้งอยู่บรเวณหาดจอมเทียน อยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังเช่น ตลาดน้ำสี่ภาคและมิโมซ่าพัทยา ห้องพักของที่นี่จะเป็นแบบห้องครอบครัว (Family Room) โดยมีให้เลือกสรรทั้งแบบ 1 ห้องนอน 2 ห้องนอน ห้องวิวสวน วิวสระว่ายน้ำ หรือห้องที่เชื่อมกับสระว่ายน้ำ สามารถลงว่ายน้ำได้เลย (Pool Access) การตกแต่งห้องพักของที่นี่เน้นโทนสีสันสดใส ให้ความรู้สึกสดชื่น
สระว่ายน้ำของ Atlantis Condo and Water Park Pattaya by the Sea เป็นแบบล้อมรอบตัวอาคาร ตกแต่งอย่างสวยงามและร่มรื่น มีสัญลักษณ์โดดเด่นคือน้ำตกและเรือโจรสลัดอยู่ตรงกลาง รวมถึงมีเครื่องเล่นสำหรับเด็กในบริเวณสระ ใครที่พักอยู่ห้อง Pool Access ก็ลงว่ายน้ำได้อย่างสะดวกสบายเลยนะคะ นอกจากสระว่ายน้ำแล้ว Atlantis Condo and Water Park Pattaya by the Sea ยังมีฟิตเนสให้บริการอีกด้วย
ขอบคุณภาพจาก atlantiscondoresort.com
- กรีนพาร์ท รีสอร์ท (Green Park Resort)
อีกหนึ่งโรงแรมดี สระว่ายน้ำเด็ด ที่จะตอบโจทย์การพักผ่อนที่ยอดเยี่ยมของคุณ เราขอแนะนำ กรีนพาร์ท รีสอร์ท (Green Park Resort) ค่ะ ที่นี่ตั้งอยู่ในพัทยาเหนือ ไม่ไกลจากถนนคนเดินพัทยา และท่าเรือแหลมบาลีฮาย การตกแต่งสถานที่และห้องพักของรีสอร์ทอยู่ในธีม Tropical Garden ห้องพักแบ่งออกเป็น 4 แบบหลัก ๆ คือ ห้องสแตนดาร์ด (Standard Room) ห้องซูพีเรีย (Superior Room) ห้องจูเนียร์สวีท (Junior Suit Room) และห้องแฟมิลี่สวีท (Family Suit Room)
สระว่ายน้ำของ กรีนพาร์ท รีสอร์ท (Green Park Resort) เป็นสระว่ายน้ำแบบวงกลมลากูน ล้อมรอบด้วยต้นไม้ร่มรื่นเขียวขจี เหมาะกับวันพักผ่อนสบาย ๆ ให้คุณได้ดื่มด่ำธรรมชาติอย่างเต็มที่ ห้องอาหารของที่นี่แบ่งออกเป็น 2 ห้อง คือห้องอาหารหลักในร่ม และศาลาไทยพูลบาร์บริเวณสระน้ำ
ขอบคุณภาพจาก greenparkpattaya.com
นอกจาก 5 ที่พักข้างต้นแล้ว พัทยาก็ยังมีที่พักสวย ๆ อีกหลายที่ให้เลือกดู ใครอยากไปพักผ่อนริมทะเลสบาย ๆ แบบไม่ไกลกรุงเทพก็จองที่พักกันไว้แต่เนิ่นๆ แล้วเตรียมเก็บกระเป๋าไปเที่ยวพัทยากับ Traveloka กันดีกว่า